;
การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปอด รวมไปถึงการสูบบุหรี่มือสองด้วยการสูดดมควันบุหรี่ ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ การสัมผัสกับแร่ใยหิน การสัมผัสกับก๊าซเรดอน กินผักผลไม้น้อย เคยเป็นดรคปอดบางอย่าง เช่น วัณโรค และเป็นภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่นโรคเอดส์
อาการของโรคมะเร็งปอด
มะเร็งปอดส่วนมากจะไม่ค่อยแสดงอาการในระยะแรก แต่จะมีสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเกิดโรคเมื่อมีการเจริญเติบโตของมะเร็งมากขึ้น สามารถสังเกตได้จาก
นอกจากนี้ยังมีบางอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่พบได้น้อย เช่น หายใจมีเสียงวีด รูปร่างของปลายนิ้วและเล็บเปลี่ยนแปลงไป ไข้ขึ้นสูง กลืนอาหารลำบาก เสียงแหบ ใบหน้าและคอมีอาการบวม
การวินิจฉัยมะเร็งปอด
แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้น และทำการถ่ายภาพรังสีทรวงอก หากอาการหรือภาพรังสีทรวงอกเข้าได้กับมะเร็งปอด คุณจะถูกส่งต่อไปยังแพทย์เฉพาะทางทรวงอกเพื่อได้รับการดูแลต่อไป โดยแพทย์จะตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย รวมถึงระบุระยะของโรคมะเร็งด้วยการทำ CT scan และ การส่องกล้องทางหลอดลม
ระยะของมะเร็งปอด
ระยะที่ 1 มะเร็งจำกัดอยู่ภายในปอด อาจลุกลามถึงหลอดลม หรือเยื่อหุ้มปอดชั้นใน แต่ยังไม่ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง
ระยะที่ 2 มะเร็งลุกลาม ไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณขั้วปอด หรือรอบๆ หลอดลม หรือลุกลามไปยังผนังทรวงอก(กระดูก ซี่โครง) กะบังลม เยื่อหุ้มปอดชั้นนอก หรือเยื่อหุ้มหัวใจชั้นนอก
ระยะที่ 3 มะเร็งลุกลาม ไปยังผนังทรวงอก กะบังลม เยื่อหุ้มปอดชั้นนอก เยื่อหุ้มหัวใจชั้นนอก ร่วมกับแพร่ไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขั้วปอดหรือรอบๆหลอดลม หรือไปยังเนื้อเยื่อภายใน หัวใจ ท่อลม หลอดอาหาร หรือกระดูกสันหลัง หรือแพร่ไปยังต่อมน้ำเหลืองที่แอ่งไหปลาร้าหรือประจันอก ข้างเดียวกัน หรือแพร่ไปที่ต่อมน้ำเหลืองขั้วปอดหรือประจันอกในทรวงอกข้างตรงข้าม
ระยะที่ 4 มะเร็งแพร่ไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆที่นอกปอด เช่น สมอง ไขสันหลัง ตับ กระดูกทั่วร่างกาย เป็นต้น
การรักษามะเร็งปอด
เมื่อได้รับผลการวินิจฉัยที่แน่นอนว่าเป็นมะเร็งปอด แพทย์จึงสามารถระบุถึงวิธีที่ใช้ในการรักษาได้ แต่ทั้งนี้ยังต้องดูจากหลายปัจจัยประกอบกันด้วย เช่น ความรุนแรงของโรคว่าผู้ป่วยอยู่ในขั้นใด ชนิดของมะเร็งปอด วิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละบุคคล หรือแม้แต่โอกาสในการรักษามะเร็งให้หายขาด เพื่อการวางแผนการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยหลักๆการรักษามี 3 วิธี คือ
การป้องกันโรคมะเร็งปอด
โรคมะเร็งปอดยังไม่มีวิธีใดที่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้