;
เชื้อสามารถติดต่อจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่ง โดยการหายใจ ได้รับน้ำมูกหรือเสมหะของผู้ป่วย โดยเชื้อจะผ่านเข้าทางเยื่อบุตา จมูก และปาก
การสัมผัสสิ่งปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น ผ้าเช็ดหน้า ช้อน แก้วน้ำ การจูบ
การที่มือไปสัมผัสเชื้อแล้วขยี้ตาหรือเอาเข้าปาก
ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลียอย่างเฉียบพลัน
เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
ปวดตามแขน ขา ปวดข้อ ปวดรอบตัว
ไข้สูง 39 – 40 องศาเซลเซียส
เจ็บคอและคอแดง มีน้ำมูกใสไหล ไอแห้งๆ ตัวจะร้อนแดง ตาแดง
อาการอาเจียนหรือท้องเดิน มีไข้ 2 – 4 วัน แล้วค่อยๆลดลง แต่อาการคัดจมูกละแสบคอ ยังคงอยู่ โดยทั่วไปจะหายภายใน 1 สัปดาห์
อาจจะพบการอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บหน้าอก หรืออาการหัวใจวายผู้ป่วยจะเหนื่อยง่าย
ระบบประสาท พบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และปอดบวม ผู้ป่วยจะแน่นหน้าอก และเหนื่อย
โดยทั่วไปไข้หวัดใหญ่มักจะหายในไม่กี่วัน แต่ก็มีผู้ป่วยบางรายจะไอ และปวดตามตัวนาน 2 สัปดาห์ มักจะเกิดอาการปวดบวมและโรคหัวใจหรืออาการตามโรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่
ระยะเวลาติดต่อคนอื่นคือ 1 วัน ก่อนเกิดอาการ
5 วัน หลังมีอาการ
ในเด็กอาจจะแพร่เชื้อ 6 วัน ก่อนมีอาการและแพร่เชื้อได้นาน 10 วัน
ติดเชื้อแบคทีเรีย อาจทำให้ปอดบวม ฝีในปอด หนองในช่องเยื่อหุ้มปอด
ไข้หวัดใหญ่ในหญิงตั้งครรภ์มีผลต่อมารดามักเป็นชนิดรุนแรงและมีอาการมาก และอาจจะทำให้แท้งได้
ผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอดหรือโรคหัวใจ อาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ และอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอนพักผ่อนมากๆไม่ทำงานหนัก
ดื่มน้ำเปล่า ผลไม้ และน้ำหวานมากๆ หรืออาจจะดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย
รับประทานอาหารอ่อนๆ
ไม่อาบน้ำเย็น เวลามีไข้สูง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว เมื่อไข้ลดลงแล้ว ควรอาบน้ำอุ่นอีกซัก 5 วัน
เวลาไอหรือจาม ควรใช้ผ้าปิดปากและจมูก
หมั่นล้างมือให้สะอาด
หลีกเลี่ยงจากที่สาธารณะ ในช่วงที่มีการระบาด
ไข้หวัดใหญ่สามารถหายได้เอง และท่านสามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้
มีไข้สูงต่อเนื่อง ให้ยาลดไข้แล้วไข้ยังเกิน 38.5 องศาเซลเซียส
หายใจหอบ หรือหายใจลำบาก
มีอาการมากกว่า 7 วัน
ริมฝีปากมีสีม่วงหรือเขียว
เด็กดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารไม่พอ
เด็กซึมลง ไม่เล่น
เด็กไข้ลดลง แต่หายใจหอบ
มีไข้สูงต่อเนื่อง
หายใจลำบก หรือหายใจหอบ
เจ็บหรือแน่นหน้าอก
หน้ามืด เป็นลม
สับสน
อาเจียน หรือรับประทานอาหารไม่ได้
มีการขาดน้ำไม่สามารถดื่มน้ำได้เพียงพอ
ไอแล้วมีเสมหะปนเลือด
หายใจลำบาก หายใจหอบ
ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีเขียว
มีไข้สูงมากจนมีอาการเพ้อ
มีอาการไข้และไอ หลังจากที่อาการไข้หวัดใหญ่หายไปแล้ว
ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการจะหายภายใน 2 – 3 วัน ไข้จะหายภายใน 7 วัน อาการอ่อนเพลียอาจจะคงอยู่นาน 1 – 2 สัปดาห์
ล้างมือบ่อยๆ
หลีกเลี่ยงการเอามือเข้าปาก หรือขยี้ตา
อย่าใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด เมื่อเวลาเจ็บป่วย
เวลาไอ หรือจาม ให้ใช้ผ้าปิดปากและจมูก
รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ปีละ 1 ครั้ง