; โรคเอ๋อ -โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เชียงใหม่ McCormick Hospital ChiangMai

โรคเอ๋อ



โรคเอ๋อ หรือภาวะปัญญาอ่อน

       
        เกิดจากการที่ร่างกายขาดสารไอโอดีน ซึ่งเป็นสารที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์หรือที่เรียกว่า "ไทรอยด์ฮอร์โมน" ซึ่งไทรอยด์ฮอร์โมนนี้จะเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอวัยวะต่างๆ ของร่างกายให้ดำเนินไปตามปกติ และกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโตทั้งร่างกายและพัฒนาการ โดยเฉพาะระบบสมองและประสาท ทั้งยังมีผลต่อการสร้างโปรตีนของกล้ามเนื้อ การเปลี่ยนแปลงและเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน  เพราะฉะนั้นหากร่างกายของเราได้รับสารไอโอดีนไม่เพียงพอ จะมีผลทำให้การสร้างไทรอยด์ฮอร์โมนในร่างกายเกิดปัญหา เกิดการเสียสมดุลในการควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ มีผลต่อ IQ สติปัญญาของเด็ก



โรคเอ๋อ เกิดจากอะไร

        สาเหตุใหญ่และพบมากในประเทศไทยคือ การที่ร่างกายของแม่มีภาวะขาดสารไอโอดีนระหว่างตั้งครรภ์ เด็กที่คลอดออกมาจะมีภาวะไทรอยด์ต่ำตั้งแต่แรกเกิด ยิ่งแม่มีอาการขาดไอโอดีนขั้นรุนแรงอาจทำให้ลูกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือพิการแต่กำเนิดได้ การสร้างไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติในตัวเด็กเอง โดยทารกเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติของการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน เช่น เกิดมาโดยไม่มีต่อไทรอยด์มาด้วย หรือถ้ามี ก็อยู่ผิดที่และไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ แต่ทารกที่คลอดออกมานั้น ในระยะแรกจะไม่สามารถดูออกว่ามีปัญหานี้ เนื่องจากตอนที่ทารกอยู่ในครรภ์ จะได้รับไทรอยด์ฮอร์โมนจากแม่มาช่วยในการเจริญเติบโต แต่หลังคลอดเพียงไม่กี่สัปดาห์ ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนจะปรากฏขึ้น ทารกจะมีอาการเซื่องซึม เอาแต่นอน ไม่ค่อยกิน ท้องผูก ท้องอืด สะดือจุ่น มีภาวะตัวเหลืองหลังคลอดนานกว่าปกติ ไม่ค่อยร้องกวน ทำให้พ่อแม่คิดว่าลูกเป็นเด็กเลี้ยงง่าย นอกจากนี้เด็กจะร้องเสียงแหบ ดูลิ้นใหญ่จุกปาก ผิวแห้งเย็น เติบโตช้า มีพัฒนาการช้ากว่าเกณฑ์ในทุกๆ ด้าน เช่น เด็กอายุ 3 เดือน ควรจะชันคอได้ดีแล้ว แต่เด็กที่มีปัญหาโรคเอ๋อคอจะไม่แข็ง ไม่สามารถยกศีรษะให้ตั้งอยู่ได้นาน หรือเกิดจากการขาดไทรอยด์ฮอร์โมนภายหลัง เช่น มีการติดเชื้อของต่อมไทรอยด์ หรือการที่เด็กได้รับยาบางชนิดที่รบกวนต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้มีการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมนน้อยลงจนทำให้เกิดโรคเอ๋อได้  โดยช่วงแรกเกิดเด็กจะดูปกติ มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่สมวัย แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน ก็จะมีอัตราการเจริญเติบโตค่อยๆ ช้าลง และเริ่มมีอาการของโรคเอ๋อให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยตัวเตี้ย มีอาการเฉื่อยชา และการเติบโตของกระดูกช้าผิดปกติ

ทำอย่างไรให้ไกลโรคเอ๋อ

        เนื่องจากสาเหตุหลักของการเกิดโรคเอ๋อในเด็กทารกเกิดจากการขาดสารไอโอดีนของแม่ วิธีป้องกันคือการบริโภคอาหารที่มีสารไอโอดีน เช่น อาหารทะเลหรืออาหารที่ปรุงด้วยเกลือที่มีสารไอโอดีนครบ
 
        การคัดกรองสุขภาพทารกแรกเกิดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะป้องกันโรคเอ๋อได้ ซึ่งการคัดกรองนี้จะทำเมื่อเด็กมีอายุครบ 3 - 5 วัน โดยเจาะเลือดที่สันเท้าของเด็ก และหยดลงในกระดาษซับ ทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นส่งผลเลือดไปตรวจ วิธีนี้พ่อแม่สามารถรู้ผลได้ภายใน 1 สัปดาห์ โดยดูจากค่า TSH (Thyroid Stimulating Hormones) หากค่า TSH เกิน 25 แสดงว่าเด็กมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นโรคเอ๋อ

        ด้วยเหตุนี้ทางกรมอนามัยจึงมีโครงการคัดกรองสุขภาพทารกแรกเกิดแห่งชาติขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กทารกเป็นโรคเอ๋อ ด้วยการตรวจเด็กเกิดใหม่ทุกคน โดยเด็กจะต้องได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเกิดถึง 1 เดือน จึงจะรักษาระดับไอคิวไว้ได้ดี 100%

        แต่ถ้ารักษาในช่วง 1 - 3 เดือน แม้เด็กจะสามารถหายเป็นปกติได้ แต่ไอคิวไม่สามารถรักษาหรือเรียกคืนในส่วนที่เสียไปได้ และถ้าหลังจาก 3 เดือนไปแล้ว โอกาสที่เด็กเป็นปัญญาอ่อนหรือมีความพิการทางประสาทจะสูงถึง 80% เพราะในวัย 0 - 3 ขวบ จะเป็นช่วงที่สมองของเด็กเจริญเติบโตเร็วที่สุด ถ้าขาดไทรอยด์ฮอร์โมนในวัยนี้ ไอคิวของเด็กก็จะเสียไปในทุกวินาที

     คุณแม่คนที่ 1  พาลูกไปตรวจแล้ว ลูกปกติ สมบูรณ์ แข็งแรง
     คุณแม่คนที่ 2  พาลูกไปตรวจแล้ว โรงพยาบาลติดต่อกลับมา ให้มาตรวจซ้ำ
หลังจากตรวจซ้ำแล้ว ลูกปกติ สมบูรณ์ แข็งแรง
     คุณแม่คนที่ 3  พาลูกไปตรวจแล้ว โรงพยาบาลติดต่อกลับมา ให้มาตรวจซ้ำ หลังตรวจซ้ำแล้ว ผลออกมาว่าผิดปกติ คุณหมอบอกว่า "รักษาได้" แล้วเด็กก็จะเติบโตเป็นปกติ
     คุณแม่คนที่ 4  พาลูกไปตรวจแล้ว โรงพยาบาลติดต่อกลับมา ให้มาตรวจซ้ำ แล้วนิ่งเฉย ไม่พาไปตรวจ ลูกอาจเป็นเอ๋อได้


วิธีการรักษา

        แพทย์จะให้ยาแอลไทร็อกซิน ซึ่งจะเข้าไปทดแทนไทรอยด์ฮอร์โมนที่ร่างกายเด็กสร้างเองไม่ได้ จากนั้นก็จะตรวจพัฒนาการและเจาะเลือดเพื่อวัดค่า TSH เป็นระยะ เมื่อเด็กอายุ 2 ขวบครึ่ง แพทย์จะทดสอบโดยหยุดให้ยาเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อดูว่าร่างกายจะสามารถสร้างไทรอยด์ฮอร์โมนได้เองหรือไม่ ถ้าได้ก็จะค่อยๆ ลดและหยุดยาในที่สุด แต่ถ้าไม่ได้หรือไม่มีต่อมไทรอยด์ก็จำเป็นต้องกินยาทุกวันไปตลอดชีวิต แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะถึงแม้ว่าต้องกินยาตลอดชีวิต แต่ในเรื่องของการเจริญเติบโตทางร่างกาย ความคิดและสติปัญญานั้น จะเป็นปกติ

        แม้ปัจจุบันภาวะการเกิดโรคเอ๋อจะลดลง เพราะได้มีการรณรงค์และป้องกันอย่างเต็มที่ ทั้งวิธีการรักษาและยาที่ใช้ก็มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ควรละเลยในการดูแลหรือป้องกันลูกให้ห่างไกลจากโรคเอ๋อ ซึ่งเริ่มได้ตั้งแต่การเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

ไอโอดีนแค่ไหนถึงจะดี

        - คนปกติต้องการสารไอโอดีนประมาณวันละ 150 - 200 ไมโครกรัม
        - แม่ท้องหรือแม่ที่ต้องให้นมลูก ต้องการสารไอโอดีนประมาณวันละ 175 - 200 ไมโครกรัม
        - เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน ต้องการสารไอโอดีนประมาณวันละ 40 - 90 ไมโครกรัม